ในคดีอาญาบุคคลใดจะตกเป็น “จำเลย” หรืออยู่ในสถานะ “จำเลย” นั้น ต้องถูกฟ้องดำเนินคดีอาญาต่อศาลโดยพนักงานอัยการหรือโดยผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 28
ในกรณีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น ผู้ที่ถูกฟ้องคดีจะตกเป็น “จำเลย” ในทันที แต่สำหรับบุคคลที่ถูกผู้เสียหายยื่นฟ้องว่ากระทำความผิดทางอาญาต่อตน ยังไม่ตกเป็น “จำเลย” ในทันทีที่ถูกยื่นฟ้องคดี เพราะในคดีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องก่อน และเมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับรับฟ้องแล้วผู้ถูกฟ้องจึงจะตกเป็น “จำเลย” กล่าวคือ
(1) ก่อนการฟ้องคดีนั้น บุคคลก็เป็น “ผู้ต้องหา” แต่เมื่อพนักงานอัยการได้ฟ้องคดีต่อศาลแล้ว บุคคลนั้นก็จะตกเป็น “จำเลย” ของพนักงานอัยการ
(2) ในกรณีที่ผู้เสียหายเป็นผู้ฟ้องคดีบุคคลใดต่อศาล เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับรับฟ้องแล้ว บุคคลนั้นก็จะตกเป็น “จำเลย” ของผู้เสียหาย
🩷🩷🩷